Harry fic Making Things Right(เจมส์ พอตเตอร์/เฮอร์ไมโอนี่)
เมื่อเธอย้อนเวลากลับไปเพื่อทำบางอย่างทุกอย่างดูจะไปได้ดีถ้าเธอไม่ได้พบว่าพ่อและแม่ของแฮร์รี่ไม่ใมช่ว่าจะรักกันได้ง่ายๆเธอต้องทำให้พวกเขารักกัน แต่มีบางอย่างเกิดขึ้น บางอย่างที่ทำให้เธอต้องตัดสินใจ
ผู้เข้าชมรวม
2,892
ผู้เข้าชมเดือนนี้
8
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Making Things Right เรื่องนี้เป็นฟิคแปลนะค่ะ
เครดิตผู้แต่งค่ะ oxtenshixo จาก http://www.fanfiction.net/s/4142455/1/Making_Things_Right
สงครามได้สิ้นสุดลงเป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว ก่อนที่แฮร์รี่จะคิดถึงเรื่องการไปก็อดดริกฮอลโล่อีกครั้ง แม้ว่าเขาจะกลับไปโดยปราศจากเพื่อนรักของเขาก็ตาม เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์คอยอยู่เคียงข้างเขา ภายในบ้านยังดูยุ่งเหยิงและเสียหาย แต่มีหลายสิ่งที่ถูกเก็บรักษาไว้ได้เป็นอย่างดี
ด้วยความช่วยเหลือของเฮอร์ไมโอนี่ พวกเขาซ่อมแซมก็อดดริกฮอลโล่ให้กลับไปสมบูรณ์แบบ เหมือนในอดีตอีกครั้ง มันส่องประกายอย่างน่าภาคภูมิใจท่ามกลางพระอาทิตย์ที่ส่องแสงยามบ่าย
แฮร์รี่นำของใช้ต่างๆของพ่อแม่กลับไปยังก็อดดริกฮอลโล่ สอง สามวันหลังจากบ้านได้รับการฟื้นฟูบูรณะใหม่ เฮอร์ไมโอนี่กำลังช่วยแฮร์รี่ตรวจสอบสิ่งของเหล่านี้ เพื่อตัดสินใจว่า อะไรควรเก็บไว้ และอะไรควรที่จะทิ้งไป เฮอร์ไมโอนี่มีความอดทนกับพวกหนังสือ และนิตยสารมากกว่าแฮร์รี่ เพราะเธอสนใจว่ามันพูดเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรบ้าง แฮร์รี่นั่งพิงกำแพงและ กำลังมองเธออ่านบทความทั้งหมดอย่างละเอียดลออ โดยไม่สนใจอะไรเลย
“ฉันต้องขอบใจเธอมากเลยนะเฮอร์ไมโอนี่ สำหรับทุกอย่างกับความช่วยเหลือของเธอที่มีให้ฉัน” แฮร์รี่พูดพร้อมกับนั่งพิงกำแพงอย่างขี้เกียจแล้ว เหยียดขาวางบนกองหนังสือเก่าๆกองหนึ่ง เฮอร์ไมโอนี่หันมามองเขาแล้วอมยิ้ม
“ไม่เป็นไรหรอกนะ แฮร์รี่ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือไง” เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะในขณะที่เธออ่านหนังสือที่อยู่บนตักของเธออย่างตั้งใจ
“มีอะไรน่าสนใจหรือไง” เขาถาม มองดวงตาของเธอที่กำลังอ่านหนังสือแต่ละหน้าอย่างคร่าวๆ ดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่จดจ่ออย่างมุ่งมั่น มันเกิดขึ้นสองถึงสามครั้ง แต่เธอบ่ายเบี่ยงเปลี่ยนเรื่องตลอดเวลา
“หือ ว่าไงนะ?” เธอตอบอย่างไม่ตั้งใจ
“ฉันถามว่านั่น! ที่เธออ่าน มันสำคัญหรือเปล่า มีบางอย่างที่ฉันควรเก็บไว้ไหม” แฮร์รี่หยอกล้อจนเธอหน้าแดง เฮอร์ไมโอนี่เพิ่งนึกได้ว่าเธอกำลังสนใจอ่านไดอารี่ส่วนตัวของลิลลี่แม่ของแฮร์รี่อยู่
“ฉันขอโทษ มันเป็นไดอารี่ของแม่เธอ ฉันแค่อ่านมันผ่านๆ แค่เพียงกำลังมองหาบางอย่างอยู่เท่านั้น” เธอพูดจบอย่างกระท่อนกระแท่น
“จริงๆแล้วเธอกำลังมองหาอะไรอยู่ล่ะ ฉันช่วยหาไหม”
แฮร์รี่ยึดตัวของเขาขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง เพื่อจะแสดงให้เฮอร์ไมโอนี่เห็นว่าเขาตั้งใจจะช่วยเธออย่างจริงจัง
“บางสิ่งเกี่ยวกับปีเจ็ดของฉันที่ฮอกวอตส์” เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดแบบนั้น ด้วยเหตุผลบางประการที่เป็นความลับ ทุกๆสิ่งที่เธอพยายามควบคุมอยู่ ในตอนนี้ ค่อยๆเผยออกมาอย่างรวดเร็วก่อนที่เธอจะสามารถดึงมันกลับเข้าไปได้
“ทำไม?”แฮร์รี่คิ้วชนกันอย่างสงสัยเขาพยายามองหน้าเพื่อนรักของเขาที่หลบสายตาแฮร์รี่อย่างลืมตัว
“ฉันได้รู้บางอย่าง” เธอพูดพึมพำ ไม่ต่อเนื่อง แต่แฮร์รี่รู้ว่าเธอพยายามปิดบังบางสิ่งไว้
“เกี่ยวกับพ่อแม่ของฉันใช่ไหม” แฮร์รี่ถามอย่างสงสัย เฮอร์ไมโอนี่ผงกหัว แล้วยังคงนิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไรอีกเลยมันทำให้แฮร์รี่หงุดหงิดใจเป็นที่สุด
“ไม่เอาน่า เล่าให้ฉันฟัง เธอก็รู้ว่าฉันไม่อาจทนรอคอย เพื่อฟังเรื่องเกี่ยวกับพ่อแม่ของฉันได้ ดังนั้นถ้าเธอได้ยินหรือรู้อะไรมา โปรดบอกฉัน...” แฮร์รี่ขอร้องนั่นยิ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่ลำบากใจเข้าไปอีก
“ก็แค่บางอย่างเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทั่วๆไปของพ่อแม่เธอ ในระหว่างที่พวกเขาอยู่ปี 7 ที่ฮอกวอตส์” เธอพูดอู้อี้ไม่เต็มเสียงนัก
“เธอรู้ได้อย่างไร” แฮร์รี่ถามอย่างอยากรู้ เฮอร์ไมโอนี่กำลังอับจนหนทาง เธอไม่มีทางที่จะบอกเขา โดยไม่พูดความจริงทั้งหมด มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น
“อืม...ฉันจำไม่ได้” ดวงตาของแฮร์รี่หรี่แคบไปยังข้ออ้างที่ไม่ได้เรื่องของเธอ
“เฮอร์ไมโอนี่ มีบางอย่างที่เธอไม่ได้บอกฉันใช่ไหม”น้ำเสียงของแฮร์รี่ออกแกมบังคับเล็กน้อย
“ฉันเพิ่งจะได้พบพวกเขาเมื่อเร็วๆนี้” เฮอร์ไมโอนี่พูด แฮร์รี่ยืนขึ้นด้วยความโกรธ เสียงของเขาเริ่มเย็นชาเล็กน้อย
“เธอหมายถึงอะไร ที่ว่าเธอพบพวกเขาเมื่อเร็วๆนี้”
“ก็แบบที่ฉันพูดนั่นแหละ ฉันพบพวกเขาเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อฉันได้เครื่องย้อนเวลาอีกอัน ฉันตัดสินใจที่จะกลับไปพบพวกเขา และตั้งใจว่าจะกลับมาเล่าให้เธอฟังทุกสิ่งที่ฉันค้นพบ” เธอตอบแต่โดยดี แต่สีหน้าของเธอกลับเหมือนกำลังอยู่ในภาวะยุ่งยากใจอย่างช่วยไม่ได้
“แล้วทำไมเธอไม่เล่าอะไรให้ฉันฟังเลยล่ะถ้าเธอตั้งใจแบบนั้น”แฮร์รี่พูดเสียงเครียด
“หลังจากที่ฉันย้อนเวลากลับไป มันยากที่จะจัดการกับกาลเวลาที่เดินไปอย่างช้าๆ พวกเราเข้าใกล้กันมากกว่าที่ฉันต้องการ และสิ่งต่างๆก็เริ่มควบคุมไม่ได้” เธออธิบาย แต่แฮร์รี่ดูเหมือนไม่เข้าใจ
“เธอหมายถึงอะไรใครเข้าไกล้เธอ แล้วที่ว่าควบคุมไม่ได้ เธอจะอธิบายให้ฉันเข้าใจมันมากกว่านี้จะได้ไหมเฮอร์ไมโอนี่”
เฮอร์ไมโอนี่นิ่งเงียบก่อนที่จะตัดสินใจอะไรบางอย่าง
“ฉันจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับพวกเขาให้เธอฟังก็ได้ ถ้าเธอสัญญาว่าจะไม่โกรธ”
แฮร์รี่หัวเราะกับสิ่งที่เธอพูด
“ทำไมฉันต้องโกรธด้วยล่ะ ไม่ใช่ว่าเธอคบหาอยู่กับพ่อของฉันสักหน่อย” เขาหัวเราะอีกครั้งแต่เมื่อเธอไม่พูดอะไรเลยเขาจึงหยุด และหรี่ตามองเธออย่างสงสัย
“เธอทำอะไร โอ้! ไม่นะคงไม่ใช่! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย! เธอเป็นแฟนกับพ่อของฉัน!” เขาคำรามออกมาเสียงดังอย่างลืมตัว
“แฮร์รี่ ฉันอธิบายได้” เฮอร์ไมโอนี่พยายามทำใจเย็น เธอจะต้องพยายามทำให้แฮร์รี่เข้าใจในตัวของเธอไม่เช่นนั้นแล้วมันคงจะเป็นตราบาปของเธอไปจนชั่วชีวิต
“เอาเลย! ฉันกำลังรอคำอธิบายที่น่าเชื่อของเธออยู่ ! ได้โปรด ทำให้ฉันกระจ่างสักที”
แฮร์รี่พูดเสียงดังพร้อมกอดอกฟังคำแก้ตัวของเธอ และพร้อมที่จะเอาเรื่องเธอทุกขณะถ้าเธอเพียงแต่พูดผิดหู
“มันเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ” เฮอร์ไมโอนี่พูดยังไม่ทันจบดูเหมือนแฮร์รี่จะไม่ยอมเข้าใจเสียแล้วตอนนี้แฮร์รี่มีแต่ความขุ่นเคืองใจเข้ามาแทนที่ความเห็นใจที่มีอยู่เพียงน้อยนิด
“ไม่ได้ตั้งใจ! นั่นคือทั้งหมดที่เธอจะพูดเหรอ” เสียงของแฮร์รี่ดังขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้เฮอร์ไมโอนี่ไม่ยอมทนอีกต่อไปแล้ว
“นายไม่ยอมให้ฉันพูดให้จบ ฉันพยายามจะพูดความจริงกับนาย ถ้านายไม่อยากฟัง ฉันก็จะไม่อธิบายอะไรให้นายฟังอีกแล้ว” เสียงของเธอตรงกันข้ามกับเสียงของแฮร์รี่โดยสิ้นเชิง และเธอแสดงอารมณ์โกรธออกมาอย่างชัดเจน ในขณะที่น้ำเสียงสั่นๆของแฮร์รี่แสดงถึงความโกรธ แต่เสียงโกรธของเฮอร์ไมโอนี่กลับเป็นเสียงแบบสงบนิ่ง
“ก็ได้ ! ฉันกำลังฟังอยู่” เขาพูดออกมาหลังจากทำใจยอมสงบสติอารมณ์ไปสักพักหนึ่งแล้ว เธอถอนหายใจออกมา แต่อย่างไรก็ตามเธอยังคงต้องพูดต่อไป
“อย่างที่ฉันพูด มันเกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ...” เธอนึกภาพย้อนกลับไป
หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่ได้ข้ามเวลากลับไปยังช่วงเวลาของเหล่าตัวกวน
เฮอร์ไมโอนี่กำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นรวมของกริฟฟินดอร์ เมื่อเธอไปถึงที่นั่นในตอนแรกเธออยู่ในเงามืดเพื่อหาเอกสารที่เกี่ยวกับพ่อแม่ของแฮร์รี่ แต่มันไม่สำเร็จเพราะมีใครบางคนเห็นเธอ
เธอแกล้งถามหาศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ในทันที เพื่อใช้เป็นข้ออ้าง ให้มองข้ามความสงสัยของพวกเขา ในเวลานั้นเธอถือแผ่นกระดาษใบหนึ่งไปที่ห้องทำงานของ ดัมเบิลดอร์ ทั้งโรงเรียนได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเธอและมันไม่มีทางออกสำหรับเรื่องนี้ เธออธิบายให้ดัมเบิลดอร์เข้าใจถึงสถานการณ์ยากลำบากของเธอ และ เขาได้อธิบายว่า เขาไม่รู้วิธีที่จะส่งเธอกลับไปเช่นกัน และแนะนำว่าเธอคงต้องเป็นนักเรียนอยู่ที่นี่จนกว่าเขาจะหาคำตอบได้ ในที่สุดเธอต้องยอมแพ้เมื่อมองไม่เห็นทางเลือกอื่นอีก และเธอจำต้องพยายามตามบทเรียนให้ทัน
ตั้งแต่นั้นมาเธอเพ่งความสนใจไปที่การเรียน ใช้เวลาให้ผ่านไปเพื่อศึกษาคน 4 คนที่สำคัญกับแฮร์รี่มากที่สุด มันยากที่จะจับตาดูพวกเขา เพราะตามปกติแล้วเขาทั้งหมดเป็นที่จับตามองของคนทั้งโรงเรียน และมันน่าประหลาดมากที่ความเป็นจริงที่ว่า ลิลลี่ดูเหมือนจะเกลียดความกล้าหาญของเจมส์ จากสิ่งที่เธอได้เห็น ไม่มีทางเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันได้ แต่เธอรู้ดีว่ามันจะเกิดขึ้นเพียงแต่ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างไรเท่านั้น
เจมส์เป็นคนหยิ่ง ทะนงตัวและหยาบคาย ทำทุกอย่างที่เขาต้องการโดยไม่สนความรู้สึกของใคร ในขณะที่ลิลลี่ฉลาดและพูดจาอ่อนโยน เว้นแต่เวลาที่เธอพูดกับเจมส์ ไม่มีทางปฏิเสธความขัดแย้งของคนทั้งคู่ได้เลยและเธอต้องหาทางให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไร แฮร์รี่จำเป็นต้องเกิดขึ้นมามีตัวตน
และนั่นคือสิ่งที่เธอพบว่าตัวเองต้องทำ ต้องคิดหาวิธีทำให้เจมส์กับลิลลี่อยู่ด้วยกัน มันเป็นไปได้ไม่สวยนักเพราะทุกครั้งที่เธอคิดอะไรออก ใครบางคนจะทำบางสิ่งเพื่อทำให้เธอไขว้เขวจากความคิดของเธอ ดึงเธอออกไปจากขบวนความคิดทั้งหมด และทิ้งให้เธอสับสน ผู้คนผ่านมาและผ่านไปแต่ไม่มีใครอยู่คุยกับเธอ มันเป็นแบบที่เธอชอบ ผู้คนยังคงพูดเกี่ยวกับเธอบ่อยๆแต่เธอไม่ชอบที่จะคิดถึงมัน
ใครบางคนทิ้งตัวลงนั่งที่ว่างข้างๆเธอ แต่เธอยังคงไม่สนใจเขา เธอแกล้งทำเป็นว่าอ่านหนังสือที่อยู่ตรงหน้าเธอผ่านๆ แม้ว่าเธอไม่ได้อ่านมันตั้งแต่ต้นก็ตาม อย่างไรก็ตามเขาคนนั้นยังคงไม่จากไป
ชายคนหนึ่งกระแอมขึ้น
“โทษทีนะ” เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ แต่เงยหน้าขึ้นไปมองอย่างเชื่อฟัง
“มีอะไรให้ฉันช่วยไหม” สิ่งที่เห็นเป็นเหตุให้เสียงที่เปล่งออกจากลำคอตีบตัน ดวงตาของเขาส่องประกายอย่างซุกซน
“ผมตัดสินใจที่จะแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเรายังไม่เคยได้แนะนำตัวกันมาก่อน ผมเลยตัดสินใจที่จะเริ่มมันก่อน” เขายื่นมือออกไป
“ผม เจมส์ พอตเตอร์ และคุณกำลังปกปิดชื่อกับผม”
“อะไรนะ?” คิ้วของเธอขมวดด้วยความสับสน เจมส์หัวเราะ
“เปล่าหรอก คำตอบที่ถูกต้องควรจะเป็นชื่อของเธอ” เขาล้อเธอเล่น เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง
“ฉันแน่ใจว่านายรู้จักชื่อฉันแล้ว แต่อย่างไงก็ตามฉันชื่อ อลิซาเบธ มิเชล ดีใจที่ได้พบค่ะ” เธอจับมือที่เขายื่นส่งมาให้ แต่เขากลับยกมันมาจ่อที่ริมฝีปากและจูบมือเธอแผ่วเบาพร้อมกับไม่ละสายตาออกห่างจากเธอ
“ผมยินดีเป็นอย่างยิ่ง” เฮอร์ไมโอนี่ดึงมือเธอออกห่างราวกับว่าเขาทำให้มันแผดเผา
“ฉันต้องไปแล้ว” เธอหยิบหนังสือของเธอ ผละจากไปก่อนที่เขาจะคัดค้านได้ทัน เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ถึงสายตาของเขาที่ติดตามเธอออกไป แต่เธอไม่ได้หันกลับไปมองเขาอีก
มันแปลกที่ได้มองเห็นแบบจำลองที่เหมือนเพื่อนสนิทของเธออย่างใกล้ชิด เธอรู้ว่ามันไม่ใช่แฮร์รี่ แต่มันไม่ได้หยุดความรู้สึกปลอดภัยเวลาที่เธออยู่กับเขา สิ่งเดียวที่แตกต่างคือดวงตา เขาไม่มีดวงตาสีเขียวเจิดจ้าของแฮร์รี่ ไม่มี และเฮอร์ไมโอนี่จะพบดวงตาแบบนั้นที่ลิลลี่
มันคล้ายกับการเอาถังน้ำแข็งขว้างใส่เธอ ความคิดของเธอหยุดตั้งแต่ก่อนเริ่มต้น เธอไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับแฮร์รี่ แต่นั่นไม่ใช่ความคิดของเธอที่มีต่อเจมส์ เขาทำให้เธอคิดถึงสิ่งอื่น บางสิ่งที่เธอชอบแต่พยายามไม่สนใจ เธอเผชิญหน้ากับปัญหาของเธอชั่วครู่ เธอถอนหายใจ วันนี้แค่ไม่ใช่วันของเธอ
แต่ละวันผ่านไปเหมือนกับการพบกันครั้งแรกของเธอกับเจมส์ ทุกๆวัน เขาจะพูดคุยกับเธอ สนทนาเล็กๆเกี่ยวกับอะไรที่ไม่เฉพาะเจาะจง แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาแน่ใจที่จะพบเธอเสมอ จนมาถึงจุดที่เธอเฝ้ารอเขา รอช่วงเวลาที่มีเธอกับเขา มันเป็นเหมือนกันทุกวัน พวกเขาพบกันหน้ากองไฟในห้องนั่งเล่นรวมกริฟฟินดอร์ เวลาเดียวกันของทุกวัน มันกลายเป็นกิจวัตรและพวกเขาทำซ้ำแบบเดิมเรื่อยมา จนวันหนึ่งเจมส์ไม่มา เฮอร์ไมโอนี่คอยเขาจนถึงเช้า ยังคงไม่มีใครมาหรือแม้กระทั่งเสียงทักทายใดๆ
หลังจากคืนนั้น เฮอร์ไมโอนี่หยุดต้องหยุดยั้งความคิดของตัวเอง และหลบเลี่ยงเจมส์ เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอเห็นเขาเข้ามาใกล้ มันเหมือนเธอเริ่มเล่นเกมส์ไล่จับระหว่างแมวกับหนู และหนูนำหน้าแมวไป 5 ก้าวเสมอ
เธอบอกได้ว่าเจมส์เริ่มรำคาญใจมากขึ้นเรื่อยๆ และวิธีที่เขาปฏิบัติกับคนอื่นๆเพื่อปลดปล่อย นอกเหนือจากเพื่อนของเขา มันรุนแรงและ เกรี้ยวกราดมากขึ้นทุกๆวัน เมื่อเขาเห็นเธอเขาพยายามที่จะตามเธอไปให้ทัน แต่เธอหายตัวไปอย่างรวดเร็วเสมอ และในวันนั้นเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจะถูกกระทำอย่างรุนแรงมากขึ้น เขาทำเพื่อให้เธอได้รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร กับเธอ
หลังจากหนึ่งสัปดาห์จากการหลบเลี่ยง เธออยู่ในห้องสมุด ไกลห่างจากสายตาที่อยากรู้อยากเห็น เธอพยายามหยิบหนังสือจากชั้นบนสุดลงมา แต่โชคไม่ดีที่เธอเอื้อมไปไม่ถึงมัน มันห่างขึ้นไปเพียงไม่กี่นิ้ว เธอกำลังจดจ่อจนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาที่กำลังตรงมาหาเธอ เธอรู้สึกถึงร่างกายของผู้ชายที่อยู่ด้านหลังและใกล้ชิดเธอมากขึ้นเรื่อยๆ
“เดี๋ยวก่อน ! ทำไมเธอต้องเสียใจที่พ่อของฉันไม่ปรากฏตัววันนั้นล่ะ? ถ้าทั้งหมดที่เธอทำเพียงเพื่อการค้นหาเรื่องราวของพวกเขาให้ฉัน” ในตอนนี้แฮร์รี่ไม่โกรธอีกต่อไปแล้ว เขาสนใจเรื่องราวเกินกว่าที่จะโกรธเธอ
“เพราะหลายสิ่งไม่ได้เป็นในแบบที่ฉันชอบ ฉันไม่นึกว่ามันจะเกิดขึ้น ฉันเริ่มที่จะมีความรู้สึกต่อเขา และฉันพยายามออกห่าง ฉันจำเป็นต้องก้าวถอยหลังเพื่อยุติความสัมพันธ์กับพ่อของเธอ ก่อนที่อะไรจะยากเกินกว่าที่จะควบคุม ฉันต้องพยายามบอกกับตัวเองว่าฉันกำลังพูดกับเขาเพื่อนายและลิลลี่” เธออธิบาย แฮร์รี่ผงกหัวรับรู้
“เล่าต่อไปซิ” แฮร์รี่บอกเธอ
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกตัวแข็งทื่อเมื่อใครบางคนผลักดันเธอไว้ให้ติดกับตู้หนังสือโดยใช้ร่างกายของเขา ในขณะที่มือของเขากำลังเอื้อมหยิบหนังสือที่เธอพยายามจะเอามันลงมา เมื่อเขาหยิบมันได้แล้ว แทนที่เขาจะผละออกจากเธอเขากลับก้มใบหน้าลงมาคลอเคลียใกล้ๆแก้มของเธอ และกระซิบข้างหูของเธอว่า
“เอ็กซิโอ น่าจะได้ผลดีนะ”
รางกายของเธอสั่นเทิ้ม และหันกลับไปเผชิญหน้ากับเชา เจมส์ พอตเตอร์ มันเป็นความผิดพลาดและเธอรับรู้ได้โดยเร็ว เขาไม่ได้ถอยออกไปแต่ยังคงโน้มตัวเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นไปอีก
“ฉันลืมไป ฉันแค่พยายามทำหลายสิ่งแบบมักเกิ้ลโดยไม่ได้คิด”เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงสั่นเมื่อรับรู้ถึงความใกล้ขิดระหว่างเขาและเธอ
“ก็พอจะเข้าใจ แต่ทำไมคุณคอยหลบเลี่ยงผมล่ะลิซ คุณไม่ยอมมา...ผมคิดถึงคุณ” ดวงตาของเขาค้นหาว่าเธอรู้สึกแบบเดียวกับเขาหรือเปล่า เธอเม้มปากเข้าด้วยกันเพื่ออดกลั้นตัวเองไม่ให้ตอบสนอง
“ขอโทษนะ ฉันมีงานต้องทำ” เฮอร์ไมโอนี่พยายามขยับออกห่าง แต่เจมส์กลับไม่ยอมปล่อยให้เธอไปจากเขา
“ไม่ ! ตอบคำถามผมมาก่อน” เขากระซิบเสียงสั่นพลางจับแขนเธอละลูบไล้ไปมา อารมณ์ทั้งหมดมันเริ่มมากเกินไปสำหรับเธอแล้ว และเธอไม่อาจควบคุมตัวเองได้จากความอ่อนแอทั้งหมดที่เธอมีในตอนนี้
“ทำไมนายไม่มาล่ะ ฉันรอนายทั้งคืนแต่นายก็ไม่มา” เธอกระซิบถามเขาอย่างกระท่อนกระแท่นและหวังในคำตอบที่ได้
“คุณหมายถึงอะไร ผมก็ไปรอคุณ
“ผมขอโทษ ผมลืมจนถึงนาทีสุดท้าย แต่ รีมัสต้องการผมในคืนนั้น ได้โปรดเข้าใจ” เฮอร์ไมโอนี่เข้าใจในทันที เธอลืมไปว่าวันนั้นเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง เธอเอาแต่เสียใจจนไม่ได้คิดอย่างมีเหตุผล และไม่เชื่ออะไรเลย เธอพยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่เขาบอก
“ฉันเชื่อนาย”
“โอ้ ลิซซี่ ผมดีใจมาก คุณไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกอย่างไร” เจมส์ดึงเธอเข้ามาสู่อ้อมกอดแน่นๆของเขา และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ปล่อยเธอไปอีก
“มันเจ็บปวดมาก ที่รู้ว่าคุณกำลังหลบหน้าผม และผมเอาความรู้สึกทั้งหมดของผมและ ลงมันกับทุกๆคนที่ผมเจอ” และสิ่งที่ทำให้เธอตัวแข็งทื่อในทันทีเมื่อเขาฝังใบหน้าของเขาลงบนซอกคอขาวนวลของเธอและสูดดมกลิ่นหอมเรื่อๆของเธอ ริมฝีปากของเขาทำให้เกิดรอยแดงจางๆบนผิวบริเวณนั้น เฮอร์ไมโอนี่ถอยออกห่างจากเขาใบหน้าของเธอแดงกล่ำด้วยความเขินอาย
“เจมส์ ฉันเสียใจ ก่อนหน้านี้ที่ฉันไม่เข้าใจนาย แต่นายต้องสัญญาว่า นายจะไม่เอาอารมณ์ไปลงกับคนอื่นๆแบบนั้น มันไม่ถูกต้อง” เธอพยายามชี้ให้เขาเห็น เพื่อทำให้เขาเข้าใจว่าสิ่งที่เขากำลังคิดและทำ มันเป็นสิ่งที่ผิด
“ผมรู้ แต่มันก็แค่โมโหที่คุณคอยหลบหน้าผม ...และอีกอย่างนั่นคือผม นั่นคือสิ่งที่ทุกคนมองเห็นผมและรู้จักผม” เฮอร์ไมโอนี่พยายามดันตัวเธอออกห่างจากเจมส์แต่ดูเหมือนเขาจะยังไม่คิดปล่อยเธอไปได้ง่ายๆ เจมส์ยังคงดันเธอเข้ากับชั้นหนังสือด้วยตัวเขาเองและกั้นเธอไม่ให้หลุดออกไปไหนด้วยอ้อมแขนที่แข็งแรงของเขา
“นั่น! ไม่ได้หมายความว่านายต้องทำแบบนั้น”เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับดิ้นรนให้หลุดจากสิ่งที่เขาทำอยู่ในตอนนี้
“มันยาก สำหรับทุกสิ่งที่ผมเคยเป็น”เจมส์พูดอย่างอ่อนล้าและนั่นทำให้เธอหยุดดิ้นและเป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัสใบหน้าของเขาอย่างอ่อนโยน และปลอบใจ
“ฉันเข้าใจ แต่นายเปลี่ยนมันได้ เปลี่ยนเป็นคนที่ดีกว่า” เจมส์ พยักหน้ารับฟังสิ่งที่เธอพูด
“ผมอยากจะอยู่กับคุณ ลิซซี่” และก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไรออกมาเจมส์ประทับริมฝีปากของเขากับริมฝีปากอวบแน่นของเธอ อย่างนุ่มนวล
“อยู่กับผมนะ” เขาพูดเมื่อละริมฝีปากออกจากเธอเพื่อให้เธอได้หายใจ เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่ามันเป็นความคิดที่ไม่ดีแต่เธอไม่อาจห้ามใจตัวของเธอเองได้อีกต่อไป
“ฉันจะอยู่กับนาย”
“ขอบคุณมากลิซซี่” เขากระซิบ และบรรจงจูบเธออีกครั้งหนึ่งและเขาไม่ต้องการให้มันจบ เขาจูบเธออย่างดูดดื่มและเร่าร้อนเป็นเวลาเนินนาน เธอยกมือขึ้นเพื่อดันเขาให้ออกห่างเมื่อเธอรู้สึกว่าตัวเธอเริ่มร้อนเป็นไฟเขามองเธออย่างสงสัย เธอส่ายหัว
“ไม่ใช่ตอนนี้ ฉันมีงานต้องทำจริงๆ ฉันจะไปเจอนายที่เดิมคืนนี้นะ” เธอให้สัญญา
เจมส์จากไปพร้อมกับจูบเธออีกครั้ง รอยยิ้มไม่อาจถูกอดกลั้นไว้ได้ หลังจากที่เขาจากไป เธอ...เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ กำลังเดทกับ เจมส์ พอตเตอร์ ความคิดที่ไม่น่าเกิดขึ้นบนโลกนี้ได้ และเธอยังเป็นคนเดียวที่ดึงดูดความสนใจของเขานอกเหนือจากคนอื่น เธอส่ายหัวเพื่อขจัดความคิดที่น่ารำคาญใจเหล่านั้นออกไป เธอจำต้องกลับไปทำงานต่อให้เสร็จ
“ช่วงเวลานั้นเขาเปลี่ยนไปมากไหมจากตอนนี้” แฮร์รี่กระซิบถาม เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัว
“เขาต้องใช้เวลาสักพัก ก่อนที่จะหยุดการกระทำแบบนั้น เขาเป็นเหมือนผู้ครองโลก และฉันต้องประหลาดใจเรื่องที่ว่า มีคนที่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเราน้อยแค่ไหน”
“เธอหมายถึงอะไร”
“พ่อนายไม่ได้บอกใครๆถึงความสัมพันธ์ของเรา หรือแม้แต่บอกว่าเขาคุยกับฉัน และเมื่อฉันไปหาเขาโดยไม่ให้เขาได้ทันตั้งตัวในวันหนึ่ง มันกลับกลายเป็นเรื่องพูดคุยกันทั้งโรงเรียน และเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็น ลิลลี่ใกล้ๆ”
นั่นคือวิธีที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาดำเนินไป เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ พวกเขาจะพบกันตอนกลางคืน ในเวลาที่คนอื่นๆนอนหลับ มันเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ในระหว่างนั้นเฮอร์ไมโอนี่ยุ่งอยู่กับโรงเรียนและมองหาทางที่จะกลับไปสู่ช่วงเวลาของตัวเธอเอง เธอมีความสุขกับเจมส์ แต่เธอรู้ดีว่าความสัมพันธ์นี้ไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมนัก
พวกเขากำลังนั่งอยู่บนโซฟา ตรงหน้ากองไฟ กอดจูบกันคล้ายกับว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้ เจมส์โน้มตัวเธอลงอย่างอ่อนโยน เขาไม่เคยละออกจากริมฝีปากของเธอ เฮอร์ไม่โอนี่ถอดเสื้อเชิร์ตของเขาออก และโยนมันออกไปสักที่ด้านหลัง โดยไม่สนใจว่ามันจะหล่นที่ตรงไหน นิ้วมือของเขาเริ่มเคลื่อนไปที่กระดุมเสื้อของเธอ และปลดมันออก มืออีกข้างกำลังลูบไล้ขึ้นไปบนขาอ่อนของเธอ จูบของเขาเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เฮอร์ไมโอนี่ร้องครางจากจูบอันร้อนแรงที่เขามอบให้ กระดุมทุกเม็ดถูกปลดออก และในเวลานี้เขากำลังถอดชิ้นส่วนของเสื้อผ้าออกไปทีละชิ้น เขาไล่จูบไปตามซอกคอของเธอและจ้องไปที่หน้าอกของเฮอร์ไมโอนี่ด้วยความรัก
เฮอร์ไมโอนี่ร้องครางเบาๆเมื่อ มือของเขา สัมผัสถูกเสื้อชั้นในสีขาวที่อยู่ภายใต้เสื้อผ้าของเธอ และเขาใช้มือครอบครองหน้าอกของเธอและลูบคลำมันเบาๆ เจมส์ซุกหน้าของเขากับเนินอกเพื่อควานหาความหอมละมุนในตัวเธอ
“โอ้ เมอร์ลิน ลิซซี่ เธอช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน” เฮอร์ไมโอนี่ตัวแข็ง ด้วยความเจ็บปวดภายในใจเมื่อได้ยินเขาเรียกชื่อที่เธอแต่งขึ้นมา เมื่อพวกเขากำลังใกล้ชิดกันมากขนาดนี้
“ที่รัก เกิดอะไรขึ้น ” เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัวและประทับจูบลงบนแก้มอันหล่อเหลาของเขา
“เปล่าไม่มีอะไร แต่เรากำลังไปไกลกันเกินไปแล้ว ฉันว่าเราควรจะหยุดมันในตอนนี้ อีกอย่างตอนนี้มันดึกมากแล้ว บางทีเราควรไปนอน” เจมส์พยักหน้ารับคำขอของเธอ
“ตกลง เราจะพบกันอีกพรุ่งนี้ ลิซซี่ ฝันดีนะ” เขาจูบเธออย่างหวานชื่นและเสียดายก่อนจะจากไปอย่างอ่อยอิ่งเขาปล่อยให้เฮอร์ไมโอนี่อยู่ตามลำพังก่อนที่จะกลับไปยังหอนอนของเด็กปี 7
เช้าวันต่อมา เฮอร์ไมโอนี่พยายามดึงตัวเองให้ลุกขึ้นจากเตียงนอน เธอเดินงัวเงียไปที่ห้องโถงใหญ่เพื่อกินอาหารเช้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เธอมาที่นี่ เธอต้องระวังที่จะไม่ปรากฏตัวเพื่อมาทานอาหารเพราะเธอไม่อยากที่จะอยู่ตรงนั้นในขณะที่พวกเขาจ้องเธออยู่ แต่เธอเหนื่อยเกินไปจากเมื่อคืน ที่อยู่กับเจมส์ และเกือบจะทำตามอำเภอใของกันและกัน จนทำให้ลืมไปว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน
เธอทิ้งตัวลงนั่ง ตรงที่ว่างแรกที่เธอหาได้ และเริ่มกิน ทั้งห้องเงียบสนิทเพราะการมาอย่างฉับพลันของเธอ พวกเขาตกตะลึงกับการได้เห็นเธอ เจมส์เดินเข้ามา เขาสังเกตเห็นบรรยากาศที่เงียบสนิทแต่ไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุ
เจมส์เห็นเฮอร์ไมโอนี่ และเขากระโดดเข้ามาหาเธออย่างมีความสุข เมื่อไปถึงตัวเธอ เขาโอบกอดเธอและจูบเธออย่างลึกซึ้ง ไม่แม้แต่จะสังเกตเห็นทุกสายตาที่จับจ้องไปที่พวกเขา
“ลิซซี่! เธอมาทำอะไรที่นี่” เขาพูดอู้อี้ สลับ กับการจูบไปตามใบหน้าสวยของเธอ โดยไม่ใส่ใจว่าทุกคนกำลังมองพวกเขาอยู่
ดวงตาของเธอเบิกกว้าง เธอมองไปรอบๆอย่างเร่งรีบ ไม่มีสิ่งใดเว้นแต่ใบหน้ากระตือรือร้นที่กำลังมองพวกเขาอย่างแปลกประหลาดใจ
“เจมส์ พวกเขากำลังมองเรา”
“จะเป็นอะไรไปล่ะที่รัก ให้พวกเขาเห็น เหตุผลข้อเดียวที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ เธอชอบหลบไปซ่อนอยู่กับหนังสือของเธอ” ในที่สุดเขานั่งลงข้างๆเธอ และเริ่มเติมอาหารลงบนจานของเขา บรรยากาศเปลี่ยนแปลงไป และทุกคนเริ่มพูดคุยกันในทันที เมื่อเฮอร์ไมโอนี่มองลงไปที่โต๊ะเธอเห็นดวงตาสีเขียวที่แสดงถึงความโกรธที่คุ้นเคยและใบหน้าสวยที่สุดที่เธอเคยเห็น เธอรับรู้ได้ว่าเธอกำลังมองไปยัง ลิลลี่ เอฟเวนส์ ความเกลียดชังที่อยู่ในดวงตาคู่นั้นทำให้เฮอร์ไมโอนี่ต้องประหลาดใจ
มันประจักษ์แก่ทุกคนว่าเธอคือเหตุผลที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป ทุกคนสังเกตเห็นว่าเขากำลังเปลี่ยนไป และไม่เลวร้ายใส่นักเรียนคนอื่นๆอีก และเธอกำลังทำให้คู่รักของเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ
“เขาแหลม ! เราไม่รู้เลยว่านายรู้จักพวกหนอนหนังสือด้วย” ซีเรียสพูดแหย่เธอ รีมัสตบหัวเขาอย่างแรง และหันไปหาเฮอร์ไมโอนี่
“อย่าไปสนใจเท้าปุยเลย เขาเชี่ยวชาญการพูดนอกเรื่อง” เฮอร์ไมโอนี่ หัวเราะเบาๆ ก่อนที่เธอจะสามารถหยุดตัวเองได้
“แต่อย่างน้อยเธอก็มีอารมณ์ขัน” ซีเรียส พูดพึมพำ
“ฉันมีชื่อนะ ฉันชื่อ อลิซาเบธ มิเชล” เธอแนะนำตัวเองอย่างเหมาะสม รีมัสยิ้ม
“ผมรีมัส ลูปิน และที่อยู่ตรงนี้คือ เพื่อนของผมชื่อ ซีเรียส แบล็ค ส่วนคนที่นั่งเงียบอยู่ตรงนั้นคือ ปีเตอร์ เพ็ตติกรู และผมเข้าใจว่า คุณคงรู้จักเจมส์ พอตเตอร์แล้ว”
“เราทุกคน คิดว่าเธอคงรู้จัก แจมซี่-พู อย่างสนิทสนมแล้ว!” ซีเรียสหยอกล้อ ดวงตาของเจมส์หรี่แคบลง
“หยุดล้อเลียน ลิซซี่ ได้แล้ว” เขายิ้มให้กับเฮอร์ไมโอนี่
“ให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง” หน้าของเฮอร์ไปโอนี่เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม และเธอกระแทกแขนของเขาอย่างร่าเริง
“ไม่ใช่ต่อหน้าพวกเขา แจมซี่-พู” เธอหยอกล้อเขาอย่างสนุกสนาน พวกตัวกวนหัวเราะ ในเวลานี้ใบหน้าของเจมส์ กลายเป็นสีแดง มันเป็นการเริ่มต้นมิตรภาพระหว่างพวกเขา อย่างไรก็ตามพวกเขาสังเกตเห็นสายตาโกรธเคืองที่ ลิลลี่ ส่งให้กับ เฮอร์ไมโอนี่ และสายตาที่เจมส์มอบให้ลิลลี่ในเวลาที่เขาคิดว่าไม่มีใครสังเกตเห็น พวกเขาเห็นพร้องกันว่าเรื่องนี้จะไม่ลงเอยด้วยดี แต่มันไม่ใช่การตัดสินใจของพวกเขา เพราะเมื่อเวลาผ่านไป มันก็จะเป็นในแบบที่ควรจะเป็น
__________________________________________________________
“ฉันรู้ว่าเธอพยายามเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับการพบกันระหว่างแม่ฉันกับเธอ แต่เธอรู้สิ่งที่พวกตัวกวนคิดได้อย่างไรล่ะ” แฮร์รี่ถามอย่างสงสัย เฮอร์ไมโอนี่หลบสายตา
“เมื่อฉันกลับมา รีมัส จำฉันได้ เขาอธิบายความคิดของพวกเขาให้ฉันฟัง ฉันคิดว่ามันคือทางที่เขาจะพาความเจ็บปวดของฉันออกไป ฉันไม่รู้ว่าถ้าเป็นเธอจะจดจำมันได้ชัดเจนหรือเปล่า แต่ฉันคงจำมันไม่ได้อย่างแน่นอน” เฮอร์ไมโอนี่ยกมือขึ้นเพื่อหยุดการตอบโต้ของเขา
“ฉันไม่ได้โทษเธอ เธอมีหลายอย่างที่ต้องจัดการในเวลานั้น มันคงจะยากที่จะออกห่างมากกว่าที่ฉันคิดไว้”
____________________________________________________________
และนั่นคือแบบที่มันเป็นไป เฮอร์ไมโอนี่ไม่หายตัวในระหว่างมื้ออาหารอีกต่อไปแล้ว แต่กลับเข้าร่วมโต๊ะอาหารกับคนทั้งโรงเรียน ตลอดช่วงเวลานั้นเจมส์ค่อยๆเปลี่ยนอย่างช้าๆ ยังกับว่าความสัมพันธ์ของเขากับเฮอร์ไมโอนี่กำลังสอนให้เขากลายเป็นคนที่ดีกว่า เขาหยุดเสกคาถาใส่คนอื่นในโรงเรียน ยกเว้น เซเวอร์รัส
ในแต่ละวันที่ผ่านไป ลิลลี่ เริ่มโกรธเกรี้ยวมากกว่าเดิม ในที่สุดเธอไม่อาจทนได้อีกต่อไป เมื่อเธอพบเฮอร์ไมโอนี่ จึงรีบตรงเข้าไปหา คำพูดต่างๆหลุดออกมาก่อนที่เธอจะสามารถควบคุมตัวเองได้
“เธอทำได้ยังไง” เฮอร์ไมโอนี่เหลือบมองขึ้นไป เมื่อเธอเห็นเงาที่อยู่เหนือหนังสือของเธอ เธอตกใจที่เห็นลิลลี่ และร้องถามหาคำตอบจากเธอ
“ฉันทำอะไรล่ะ”
“เปลี่ยนเขาไง”
“เธอหมายถึงเจมส์เหรอ” ลิลลี่ผงกหัวรับ
“จริงๆแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นเพราะตัวเขาเอง วันที่เขาชวนฉันออกไปข้างนอก เราคุยกันเกี่ยวกับเรื่องพฤติกรรมของเขา ฉันพูดบางอย่าง และเขาก็เข้าใจ ฉันทิ้งคำพูดบางคำไว้ ตั้งแต่นั้นเขาตัดสินใจด้วยตัวเอง ฉันจะไม่พยายามเปลี่ยนแปลงเขา ไม่ว่าทางใดที่เขาไม่อยากจะเปลี่ยน มันไม่ได้เป็นหน้าที่ของฉันที่จะทำ” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบ ลิลลี่พยักหน้ารับอีกครั้ง
“เธอรู้ใช่ไหมว่าเขารักฉันตั้งแต่ปีแรกที่เราเจอกัน” ลิลลี่ถามเธอ เป็นคำถามที่ไม่อาจช่วยให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกดีขึ้นได้ แต่มันเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด
“ฉันรู้ และเขายังคงรักเธอ” เฮอร์ไมโอนี่พูด ลิลลี่ส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่! ตอนนี้เขามีเธอแล้ว เขาเปลี่ยนไปเพื่อเธอ ไม่ใช่ฉัน” ลิลลี่พูดแย้ง เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นยืน และเผชิญหน้ากับลิลลี่
“เห็นมั๊ยว่าเธอคิดผิด เจมส์ไม่ได้เปลี่ยนเพื่อใคร แต่เขาเปลี่ยนเพื่อตัวเอง มันถึงเวลาที่เขาจะโตขึ้น และเขาทำได้ นี่คือวิธีที่เขาจะอยู่กับเธอ และเธอต้องไม่พยายามเปลี่ยนแปลงเขา” เฮอร์ไมโอนี่ อธิบายอย่างหนัก
“เธอไม่เห็นเลยหรือไง! ความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอ มันแข็งแกร่งจนทำให้เขาอยากจะโตเป็นผู้ใหญ่เพื่อเธอ แต่เธอไม่ให้เวลาเขาเลย ส่วนฉันเป็นแค่เพียงคนก่อกวนที่ดูเหมือนจะแยกเธอทั้งคู่ออกห่างจากกันมากขึ้นก็เท่านั้น ทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นลิลลี่ ถ้าเธอตอบตกลงเขา เรื่องทั้งหมดก็แค่นั้น!” น้ำตากำลังไหลลงอาบแก้มของลิลลี่
“เธอรู้ได้ยังไงลิซซี่”
“มันไม่ยากที่จะรู้จักเขา สอง สามเดือนมานี้ ฉันอยู่กับเจมส์ และเราพูดคุยกันแทบจะทุกเรื่อง ความสัมพันธ์ของเราไม่ได้อยู่บนพื้นฐานในเรื่องทางร่างกายเพียงอย่างเดียว” เฮอร์ไมโอนี่สูดลมหายใจเข้าเพื่อเก็บกดอารมณ์ของเธอเอาไว้
“เขายังรักเธอแม้กระทั่งตอนนี้ ฉันเชื่อว่าเหตุผลเดียวที่เขาคบหากับฉัน คือเพื่อทำให้เธออิจฉา” เฮอร์ไมโอนี่พูด
“และเธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม” ลิลลี่ถามเธอด้วยความเป็นห่วง
“พูดตามตรงนะ ฉันเข้าใจเธอ และฉันห่วงใยเจมส์อย่างที่สุดแต่เขาไม่มีความหมายต่อฉัน เขามีความหมายต่อใครคนอื่น โชคชะตาของเขาถูกผูกไว้กับโชคชะตาของใครคนหนึ่ง และฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะยุ่งกับมัน เอาล่ะเช็ดน้ำตาของเธอซะ” เฮอร์ไมโอนี่เสกคาถาส่งผ้าเช็ดหน้าให้เธอ
“ขอบคุณ เธอรู้ไหม ชั่วครู่เธอทำให้ฉันนึกถึงศาสตราจารย์ ทรีลอว์นีย์ เธอชอบพูดถึงโชคชะตาอะไรทำนองนั้นเสมอ และด้วยเหตุผลบางอย่าง...ฉันเชื่อเธอ ขอบคุณที่คุยกับฉัน” ลิลลี่ค่อยๆ พูดออกมา
“ไม่มีปัญหา เธอจะถามอะไรฉันอีกมั๊ยล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่บอกกับเธอ
“ไม่หรอก ฉันไม่เคยทำตัวเป็นคนน่ารักกับเธอตั้งแต่ที่เธอมาถึง ฉันก็แค่---” ลิลลี่พูด
“อิจฉา” เฮอร์ไมโอนี่จบประโยคให้เธอ
“ฉันเข้าใจเธอ มากกว่าที่เธอรู้ซะอีก ไม่มีใครที่เธอจำเป็นต้องอิจฉา” เฮอร์ไมโอนี่พูด มองไปที่เธอในทันที
“เธอไม่มีอะไรต้องอิจฉา เธอมีเขา” ลิลลี่หันหลังเพื่อเดินจากไปและได้ยินเพียงแค่เสียงกระซิบแผ่วเบาของเฮอร์ไมโอนี่ที่มากับสายลม
__________________________________________________________
“ว้าว! ฉันไม่เคยรู้เกี่ยวกับแม่ในแบบนั้นเลย” แฮร์รี่พูด เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างอ่อนแรง
“เธอรักพ่อของนายจริงๆ เธอแค่ต้องการแรงผลักดัน ต้องการใครบางคนกระตุ้นเธอไปในทิศทางที่ถูกต้อง”
“เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น” แฮร์รี่ถามเธอ
“ฉันไปอาจปล่อยให้เขาไป” เฮอร์ไมโอนี่เล่าต่อ
___________________________________________________________
เพียงแค่ไม่กี่วันหลังจากการสนทนาของเฮอร์ไมโอนี่กับลิลลี่ เธอสังเกตเห็นบางสิ่ง ลิลลี่วนเวียนอยู่ใกล้ๆเจมส์ บ่อยครั้งขึ้น เธอหยอกล้อกับเจมส์เท่าที่จะทำได้ เฮอร์ไมโอนี่เห็นมันทั้งหมดแต่ไม่ได้ออกความเห็นใดๆ หากแต่สิ่งที่ทำให้เจ็บปวดมากที่สุดคือการที่เจมส์ไม่อยู่ห่างจากลิลลี่ หรือปฏิเสธความสัมพันธ์ที่คืบหน้าของเธอเลย
รีมัส และ ซีเรียสสังเกตเห็นมันทันที ในขณะที่ลิลลี่หยอกล้อเจมส์เกี่ยวกับบางสิ่งที่เขาทำในห้องเรียน พวกเขาคาดการณ์ว่า เฮอร์ไมโอนี่จะวิ่งหนี และโกรธ แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดคือ การเห็นเธอยอมรับมัน คล้ายกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อพวกเขาเจอกับเฮอร์ไมโอนี่ เธอบอกความจริงให้พวกเขาฟัง บอกว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของเธอที่จะหยุดลิลลี่ ถ้าเจมส์ต้องการมีความสัมพันธ์คืบหน้ากับลิลลี่ก็ปล่อยให้มันเป็นไป คำตอบนั้นไม่ได้ทำให้พวกเขามีความสุขขึ้นเลย และมันอาจจะทำให้แย่ลงไปอีก เมื่อเจมส์พูดถึงการพบกันของเขากับลิลลี่อย่างตื่นเต้น มันไปไกลเกินกว่านั้น เมื่อเจมส์นั่งข้างๆ ลิลลี่ในเวลาอาหารเช้า เขาไม่แม้แต่จะสังเกตเห็นเฮอร์ไมโอนี่เมื่อเธอโบกมือให้เขา เธอหยุดมากินอาหารตั้งแต่นั้น มันเหมือนกับในตอนแรก ตอนที่ไม่มีใครเคยเห็นเธอ เว้นก็แต่เพียงครั้งนี้ ที่เธอต้องออกมานั่งร้องไห้ตามลำพัง
เฮอร์ไมโอนี่ รู้ว่าควรยินดีกับพวกเขา เพราะในที่สุดพวกเขาก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่เธอคิดว่าทั้งสองคนน่าจะฉลาดมากกว่านี้สักหน่อย นั่นก็เพราะพวกเขาทำราวกับว่าเธอไม่สำคัญ เธอร้องไห้จนหัวใจเกือบจะหลุดออกมาเป็นเสี่ยงๆ เพราะเธอรู้ดีว่าเธออยู่เพียงลำพัง แต่เธอคิดผิด ใครบางคนกำลังได้ยิน และมันทำให้เขาปวดใจ สองวันมาแล้วที่เจมส์ไม่เห็นเฮอร์ไมโอนี่ และในที่สุดเขาออกความเห็น
“เฮ้! พวกนายเห็นลิซซี่บ้างไหม เธอหายหน้าไปสอง สามวันที่แล้ว”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกกับสิ่งที่ฉันจะบอกนาย...” รีมัสดุเขา เจมส์ ยกมือขึ้นเป็นเชิงห้ามไม่ให้เขาพูดต่อ
“โอ้! นั่นหมายถึงอะไร มันไม่ใช่ความผิดของฉันนะ ที่เธอตัดสินใจหายตัวไป” เขาแก้ต่าง ครั้งนี้ดวงตาของซีเรียสหรี่แคบลงเพราะคำพูดของเจมส์
“สองวันที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นล่ะ ตอนเวลาอาหารเช้า นายรู้บ้างไหม” ซีเรียสถามประชดประชัน
“ฉันไปนั่งข้างๆ ลิลลี่ แล้วยังไงล่ะ”
“นายทิ้งแฟนนาย” ดวงตาของเจมส์เบิกกว้างด้วยความตกใจ
“โอ้ เมอร์ลิน เธอไม่ได้โกรธฉันใช่ไหม
“ฉันไม่รู้หรอกเขาแหลม บางทีเหตุผลที่ไม่มีใครเห็นเธอมาสองวันแล้วอาจเป็นเพราะเธอมีความสุขอยู่ละมั่ง” รีมัสพูดอย่างถากถาง
“เธอกำลังร้องไห้” ซัเรียสกระซิบ
“นายเดินขึ้นไปที่หอคอยดาราศาสตร์สิ เธอร้องไห้อย่างเจ็บปวดและยาวนาน นายยังคงเดทกับเธอ แต่เธอไม่เคยบ่นกับสิ่งที่นายทำ”
“เธอเห็นนายกับลิลลี่จีบกัน นายรู้ไหมว่าเธอพูดว่าอะไร” เจมส์ส่ายหน้า
“เธอบอกว่ามันไม่ใช่การตัดสินใจของเธอ ถ้านายชอบลิลลี่เธอก็ไม่อาจทำอะไรได้ เพื่อจะหยุดนาย และอย่างน้อยที่สุด เรื่องที่นายควรจะทำก็คือบอกเธอ...ว่านายต้องการอะไรกันแน่” ซีเรียส ตะโกนเสียงดัง
“อย่าทำให้เธอเจ็บปวดไปมากกว่านี้ เจมส์”
“แต่ฉันอยากอยู่กับเธอ” เจมส์ร้องตะโกนกลับไป เขาสำนึกในสิ่งที่เขาทำ
“ใช่แล้ว ฉันทำให้เธอเสียใจ ฉันนึกไม่ถึงแต่ฉันก็ทำ ฉันมืดแปดด้านไปหมด เพราะในที่สุด ลิลลี่ กลับมาสนใจฉัน ซึ่งฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับตัวเองจริงๆ”
“ถ้าอย่างนั้นนายควรอยู่กับเธอสิ ไม่ใช่ลิลลี่” เจมส์ พยักหน้าเข้าใจ และเขารีบออกไปตามหาเฮอร์ไมโอนี่ทันที เขาใช้เวลาหลายชั่วโมง และในที่สุดเขาก็พบเธอในห้องสมุด เจมส์เห็นว่าเธอเสียใจแค่ไหน
“ลิซซี่” เธอเงยหน้าขึ้น ตัวของเธอแข็งทื่อ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง
“ค่ะ เจมส์”
“ผมต้องคุยกับคุณ” เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้ารับ เธอกำลังรอให้วันนี้มาถึง วันที่ในที่สุดเขาจะจบเรื่องราวระหว่างเรา เธอพยายามควบคุมตัวเอง
“มีเรื่องอะไรค่ะ”
“คุณรู้ว่าผมทำตัวห่างเหินจากคุณ เมื่อไม่นานมานี้ ยังไงใช่ไหม” เธอพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้น ผมอยากจะขอโทษสำหรับเรื่องนั้น ผมแน่ใจว่าคุณคงเคยได้ยินเกี่ยวกับความรู้สึกของผมที่มีต่อลิลลี่ใช่ไหม”
“ใครๆก็รู้” เธอพูด เจมส์พยักหน้า
“เมื่อ ลิลลี่ เริ่มสนใจผม มันทำให้ผมลืมตัว และทำตัวเหมือนคนโง่ต่อคุณ...เฮอร์ไมโอนี่! คุณเป็นแฟนที่ดี และคุณสมควรได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่านั้น ผมอยากให้คุณรู้ว่าผมจะทำตามใจคุณทุกอย่าง ผมเสียใจที่รัก”
ก่อนที่ เฮอร์ไมโอนี่จะสามารถเข้าใจในสิ่งที่เขากำลังพูดได้ทั้งหมด ในทันทีเขาจูบเธออย่างดูดดื่ม พยายามย้ำเตือนเธอ ถึงสิ่งที่พวกเขาเคยเป็นก่อนหน้านี้ เขาทำให้การตัดสินใจของเธอพังลง และเธอมอบจูบที่ใส่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอรู้สึกต่อเขา ในจูบเดียวจูบนั้น เขายกตัวเธอวางลงบนเก้าอี้
“ผมขอโทษ ลิซซี่”
“ไม่เป็นไร ฉันให้อภัยคุณ”
เป็นอีกครั้งที่เขาทั้งสองกลับเข้าสู่แนวทางเดิมที่เคยเป็นมา และครั้งนี้ เวลาที่ลิลลี่เข้าถึงตัวเขา เขาไม่ตอบสนอง เขายังคงไม่ปฏิเสธเธอแต่เขาไม่ตอบสนองอย่างน่าพอใจนัก และนั่นไม่ได้ขัดขวางลิลลี่ หากแต่เธอยังคงพยายามอย่างหนักเพื่อให้เจมส์สนใจเธอ
“นั่นคือสิ่งที่เธอทำเหรอ เธอมีโอกาสเหมาะที่จะเลิกกับเขา แต่เธอกลับสานต่อ เพราะเธออยากอยู่กับเขา” แฮร์รี่ถาม เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า
“มันไม่นานนักหรอก หลังจากนั้นฉันทำให้เรื่องราวต่างๆจบลง”
“เกิดอะไรขึ้น” แฮร์รี่ถาม
“ลิลลี่ยังคงแหย่ และ ยั่วเย้าเจมส์ แต่ฉันคิดว่าเธอคงเริ่มสิ้นหวังแล้ว ในที่สุดเธอเริ่มสัมผัสเขา เธอวางมือลงบนขาของเขา และเป็นครั้งแรกที่เขาปฏิเสธเธออย่างเปิดเผย เจมส์เอามือของเธอออกไปและบอกกับเธออย่างชัดเจนว่าเขามีเจ้าของแล้วโดยแม่มดอีกคน” เฮอร์ไมโอนี่ตอบเขา
“นั่นจะจบสิ่งต่างๆได้อย่างไรล่ะ มันดูเหมือนว่ากำลังจะพัฒนาต่อไป”
“นายอาจจะคิดเช่นนั้น แต่ในช่วงเวลานั้นฉันเข้าใจบางสิ่ง ความสุขของฉันไม่สำคัญเท่าในเวลานี้ ฉันจะจบสิ่งต่างๆก่อนที่มันจะเริ่มแย่ลง”
เฮอร์ไมโอนี่กำลังมองหาเจมส์ เขาทำให้เธอต้องรอ หลังจากที่เขาคุยกับลิลลี่ ไม่มีใครเห็นเขาตั้งแต่นั้น แต่เฮอร์ไมโอนี่ต้องคุยกับเจมส์ให้ได้ มันสำคัญมาก เธอพบเขาที่สนามแข่งควิชดิช กำลังบินไปรอบๆอย่างไร้จุดหมาย
“เจมส์ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ” เขาขี่ไม้กวาดลงมาหาเธอ
“เรื่องอะไรเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ ไม่รู้จะเริ่มการสนทนาอย่างไร เธอจึงตัดสินใจพูดไปตามตรง
“ฉันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับลิลลี่”
“ผมปิดกั้นลิลลี่ เพราะผมอยากให้ความสัมพันธ์ของเรามั่นคง” เขาพูดในขณะที่สัมผัสแก้มของเธออย่างรักใคร่ด้วยหลังมือ ชั่ววินาทีนั่นเฮอร์ไมโอนี่อยากจะล้มเลิกความคิดของเธอ เพื่ออยู่กับเขา แต่เธอรู้ดีว่าเธอไม่อาจทำมันได้
“ฉันรู้...ว่าคุณรู้สึกยังไงกับลิลลี่” เฮอร์ไมโอนี่บอกเขา
“มันไม่สำคัญหรอก เพราะตอนนี้ผมมีความสุขกับคุณ”
“ฉันรู้ว่าคุณรักเธอ และมันไม่เป็นไรหรอกที่คุณยังคงอยากอยู่กับเธอ ฉันอยากให้คุณมีความสุขและฉันคิดว่าคุณจะมีความสุขที่ได้อยู่กับเธอมากกว่า” เขาส่ายหัวอย่างรุนแรง
“ใช่! แต่มันอาจจะเป็นอย่างนั้น คุณอาจจะยังไม่เข้าใจในตอนนี้ แต่คุณมีอนาคตที่ผูกสัญญารักไว้กับผู้หญิงคนนั้น ฉันจะห่วงใยคุณอย่างลึกซึ้งตลอดไป แต่เวลาของเราสิ้นสุดลงแล้วเจมส์
“แต่ผมรักคุณนะ!”
“ฉันรักคุณเช่นกัน” เจมส์พยายามดึงเธอเข้าไปหาเขา แต่เธอผละตัวออก
“ฉันรักคุณพอที่จะปล่อยให้คุณไป...เพื่ออยู่กับเธอ”
“ลิซซี่ ทำไมคุณทำแบบนี้ล่ะ คุณจะไม่มีความสุขนะ” เจมส์ถาม เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มรับ
“คุณทำให้ฉันเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก แต่ฉันไม่อาจเห็นแก่ตัว คุณเป็นอิสระแล้ว เจมส์ พอตเตอร์ เป็นอิสระและอยู่กับคนที่คุณเลือกได้” พลังบางอย่างกำลังทำให้เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอยู่ได้ ทั้งๆสิ่งที่เธออยากจะทำคือ ปลดปล่อยอารมณ์ทั้งหมดออกมาและร้องไห้
“แล้วถ้าผมอยากอยู่กับคุณล่ะ”
“ถ้าเช่นนั้น คุณก็จะเป็นผู้ชายที่โง่มากที่สุดเลยเจมส์ แค่เพียงคุณดูว่าจริงๆแล้วคุณรู้สึกยังไง คุณก็จะเข้าใจ” เฮอร์ไมโอนี่จากไปและไม่หันกลับมามองเขาอีก ดัมเบิลดอร์ ยังไม่พบหนทางที่จะพาเธอกลับ แต่เธอได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
“สอง สามสัปดาห์ต่อมา ฉันเฝ้ามองพ่อและแม่ของนาย เริ่มสานความสัมพันธ์แบบลังเล เขามองหาฉัน แต่ครั้งนี้ฉันยังคงซ่อน และในที่สุด ดัมเบิลดอร์พบทางที่จะพาฉันกลับไป” เฮอร์ไมโอนี่เล่าจนจบ
เธอเงยหน้าขึ้น รอคอยการตอบสนองของแฮร์รี่ต่อสถานการณ์ทั้งหมดที่เธอเล่าให้เขาฟัง สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ประหลาดใจ เมื่อ แฮร์รี่ สวมกอดเธอแน่น และกระซิบคำขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่าข้างหูของเธอ
“มันแปลกที่ได้รู้ว่าเธอคือเหตุผลที่ฉันมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ หรือ ตั้งแต่ก่อนที่ฉันเกิด เธอมองหาฉัน เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูดตลก
“ฉันคือเพื่อนที่ดีที่สุดของนาย แฮร์รี่ และนั่นคือสิ่งที่ฉันทำ” เธอยิ้มให้เขาอย่างอบอุ่น เสียงของเขาเปลี่ยนเป็นจริงจัง
“ใช่! ฉันยังคงคิดถึงเจมส์ แต่อย่ากังวล ฉันมองไม่เห็นเขาในตัวนาย นายอาจจะดูเหมือนเขาแต่นายแตกต่าง” แฮร์รี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ขอบคุณ เมอร์ลิน” แฮร์รี่พูดแหย่เธอ เฮอร์ไมโอนี่มองค้อนเขา
“ฉันควรกลับได้แล้ว ฉันมีบางอย่างที่จะต้องทำ” เธอลุกขึ้นเพื่อจากไป
“กลับมาใหม่พรุ่งนี้นะ เฮอร์ไมโอนี่ เราจะได้จัดการของที่เหลือพวกนี้ให้เสร็จ”
“ตกลง ฉันจะกลับมาพรุ่งนี้ แฮร์รี่” เธอหยิบผงฟลูบางส่วนออกจากเสื้อคลุม เดินไปที่เตาผิงและหายลับไป เขามองไปที่เตาผิงสักพักก่อนที่จะหันกลับไปยังกองหนังสือ เขาสังเกตเห็นกระดาษสองแผ่นที่ไม่ได้แนบติดกับไดอารี่ของแม่ เขาหยิบมันขึ้นมาอ่าน
ถึง...อลิซาเบธ
ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เขียนมันในตอนนี้ ดูเหมือนว่าฉันจะไม่เคยมีความกล้า ที่จะส่งมัน และเราไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ฉันแค่อยากจะขอบคุณสำหรับสิ่งที่ทำให้แก่ฉัน ฉันหมายถึงเจมส์ ฉันรู้ว่ามันยากแค่ไหนสำหรับเธอ และฉันไม่ได้ทำให้อะไรง่ายขึ้น ฉันต้องใช้เวลาสักพักเพื่อตัดสินใจเขียนมันขึ้นมา และฉันเข้าใจว่า ฉันกำลังทำหยาบคายแค่ไหน จะเกิดความหึงหวงหรือไม่ นั่นไม่สมควรยอมรับ ไม่ว่าเธออยู่ที่ไหนในตอนนี้ ฉันหวังให้เธอมีความสุข เพราะเธอสมควรได้รับมัน
ส่วนเหตุผลแท้จริง ที่ฉันเขียนจดหมายฉบับนี้ เพียงเพื่อจะบอกว่า ฉันตั้งท้องแล้ว และรู้สึกเหมือนกับว่าควรปลดปล่อยอารมณ์ออกมา นี่คือที่ๆฉันค้นพบตัวเอง ฉันคิดว่าฉันกำลังจะได้ลูกชาย เราวางแผนตั้งชื่อเขาตามปู่ของเขาว่า แฮร์รี่ เรากำลังคิดถึงชื่อ แฮร์รี่ เจมส์ พอตเตอร์ ฉันคิดว่ามันสอดคล้องกันดี เจมส์ไม่ค่อยกระตือรือร้นในการที่จะใช้ชื่อ เจมส์ นักแต่ฉันแน่ใจว่าฉันอาจจะทำให้เขาแน่ใจว่ามันจะดี
ต้องขอโทษที่ฉันพูดเรื่องลูกมากมาย พูดถึงการกำเนิดของเขาที่กำลังจะมาถึง และที่นี่ไม่มีใครที่ฉันจะคุยด้วยได้ มันค่อนข้างโดดเดี่ยวแต่ฉันมีความสุข ดูเหมือนว่าฉันจะกำลังทำให้เธอเจ็บปวด ฉันเสียใจ ฉันไม่ได้คิดจริงๆหรอก ว่าเขาจะลืมเธอได้ ไม่เลย ฉันรู้ว่าเขาไม่เคยลืม ฉันคิดว่าเขารักเธอตอนที่เธอทิ้งเขา และเขายังคงรักเธอ ฉันต้องยอมรับมัน ฉันรู้สึกเพียงแค่วิธีที่ฉันปฏิบัติต่อเธอ ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันเข้าใจว่าเธอคงไม่ให้อภัยฉัน บอกฉันสิว่าฉันทำผิด และบอกว่าเจมส์รักแต่เพียงฉัน เธอดูเหมือนจะเป็นคนแบบนั้นแต่เธอไม่ใช่ ฉันรู้ว่าเราไม่มีเวลาทำความรู้จักอย่างคุ้นเคยกัน แต่ฉันรู้ว่าเธอมีจิตใจที่ดี
ด้วยท่าทางที่ทั้งสามคนพูดถึงเธอ เธอต้องดีเลิศพวกเขาเชื่ออย่างนั้นตลอดมา มันอาจจะดูแปลกที่ฉันอยากให้เธอเป็นแม่ทูนหัวของแฮร์รี่ ฉันรู้ว่าเราไม่เคยใกล้ชิดกัน แต่เจมส์ไว้ใจเธอและพวกผู้ชายด้วย มันแค่ดูเหมือนเป็นการตัดสินใจที่เหมาะ ฉันคิดว่าฉันตัดสินใจส่งจดหมายให้เธอด้วยนกฮูกตัวนี้
ด้วยรักและจริงใจ
ลิลลี่ พอตเตอร์
เมื่อแฮร์รี่หยิบกระดาษขึ้นมาในตอนแรก เขาไม่คาดคิดถึงมันเลย ถ้าก่อนหน้านี้เขาไม่เชื่อเฮอร์ไมโอนี่จากสิ่งที่เธอเล่า นี่ก็จะเป็นหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้เลย ตอนนี้ ทุกๆสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง และมันดูเหมือนว่าแม่ของเขาอยากจะปรับปรุงตัว เขาสงสัยว่าหน้าต่อไปจะเป็นอย่างไร แม่ของเขาอยากจะส่งอะไรให้เฮอร์ไมโอนี่อีกกันแน่?
ถึง...ลิซซี่
ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีหลังจากหลายปีที่ผ่านมานี้ ผมมีหลายอย่างที่อยากจะพูดกับคุณ แต่อย่างไรก็ตามผมไม่อาจหาคำพูดคำใดมาบอกกับคุณได้ ผมพบจดหมายของลิลลี่ที่เขียนถึงคุณ และตัดสินใจที่จะเขียนถึงคุณเช่นกัน เว้นแต่ว่าผมไม่รู้ว่าจะเริ่มที่ตรงไหน เมื่อคุณจากไป ผมคิดว่าจะพูดอะไรได้อีกเมื่อพบคุณอีกครั้ง แต่คุณดีเสมอมา และคอยหลบผมตลอด ผมไม่เคยเจอคุณอีกและไม่คิดว่าจะได้เจอคุณ
ในจิตนาการของผม ผมมักคิดเสมอว่าจะได้เจอคุณในห้องสมุด มันเป็นสถานที่ๆคุณชอบไป ผมอยากสารภาพถึงความรักชั่วนิรันด์ของผมให้คุณได้รู้ และคุณจะได้รับผมกลับเข้าไปในชีวิตของคุณอีกครั้ง ผมต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่จะยอมรับได้ว่าคุณจะไม่กลับมาหาผมอีก ความฝันนี้ของผมคงไม่อาจเป็นจริงได้ แม้กระทั่งตอนนี้มันยากที่จะเชื่อ มันเศร้าแต่มันคือความจริง แม้กระทั่งหลายปีที่ผ่านมานี้ ผมก็ยังคงรักคุณ ผมรู้ว่าคุณคิดว่าผมต้องการลิลลี่ แต่คุณไม่เข้าใจ ลิลลี่เป็นความเฟ้อฝันวัยเด็กของผม และมันยากที่จะไม่ตอบสนองเมื่อเธอเริ่มสนใจผม แต่เธอแตกต่าง
ผมไม่คิดว่าจะได้พบคุณอีก และนั่นมันทำให้ผมเจ็บปวด ผมยังคงพูดถึงคุณ ในตอนแรกมันยาก และรีมัสตำหนิผมยกใหญ่ เขาเป็นคนที่บอกผมเกี่ยวกับเรื่องที่คุณร้องไห้ที่หอคอยดาราศาสตร์ ผมไม่อาจให้อภัยตัวเองได้ และขอโทษสำหรับความผิดครั้งนั้น ผมตาบอดที่ไม่เห็นว่าใครคือคนที่น่าอัศจรรย์ ที่ผมมีอยู่ตรงหน้าแต่มันเพียงพอแล้ว
อย่างที่จดหมายของลิลลี่บอกว่าเธอตั้งท้อง ลูกของเราจะครบกำหนดคลอด ในอีกไม่กี่เดือน น่าจะเป็นเดือนสิงหาคม ผมแทบจะอดทนรอเห็นเขาไม่ไหว เขาคือพรที่สวรรค์ส่งมาให้ ผมรู้ว่าลิลลี่ขอให้คุณเป็นแม่ทูนหัว และผมอยากให้คุณยอมรับ ได้โปรด! มันมีความหมายต่อผมมาก ถ้าคุณจะยอมรับคำร้องขอนี้ ผมจะได้รู้โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณจะปกป้องลูกชายของผม เพราะคุณเป็นคนที่ห่วงใยคนอื่นเสมอ และนั่นนำไปสู่สิ่งอื่น
ผมได้ยินคำทำนาย และนั่น ทำให้ผมเชื่อว่าคุณรู้เกี่ยวกับเรื่องที่ลูกของเราจำเป็นต้องถือกำเนิดขึ้นมา คุณเสียสละอย่างมากเพื่อคนที่คุณรักลิซซี่ ผมรู้สึกซาบซึ้งและคุณได้ความรักจากผม ผมปรารถนาให้คุณไม่ต้องสนใจคนอื่นมากนัก แต่แล้วผมก็นึกได้ว่าผมจะอยู่โดยปราศจากลูก ถ้าคุณไม่เสียสละเพื่อเรา
ผมแค่อยากจะขอบคุณเป็นครั้งสุดท้าย ผมมีความรู้สึกที่ไม่ดีที่เก็บไว้ใจใจ และผมจำเป็นต้องให้มันออกไปจากความคิดของผม
ซีเรียส ส่งความปรารถนาดีของเขามาให้คุณ และบอกว่าถ้าคุณกำลังมองหาพ่อมดสักคน เขาพร้อมและยังว่างอยู่ ได้โปรดอย่ายอมรับข้อเสนอของเขา เขาทำตัวเกเร เพื่อนที่ดีที่สุดของผมแต่ยังคงเกเร
รีมัส ฝากความรักให้กับคุณ เขาไม่อาจทนรอเพื่อพบคุณในพิธีล้างบาปของแฮร์รี่ได้ คุณคงเคยได้ยินเกี่ยวกับมัน และถ้าคุณไม่มา คุณก็จะยังคงเป็นแม่ทูนหัวของแฮร์รี่เพราะเราอยากให้คุณเป็น
ปีเตอร์ ขอโทษสำหรับสิ่งที่ผมไม่รู้ เขาพูดว่าคุณจะเข้าใจ จากข้อความสั้นๆนี้ ได้โปรดกลับมา แม้ว่าผมไม่อาจอยู่กับคุณได้ แต่ผมอยากอยู่ใกล้คุณเสมอ
รักเสมอ
เจมส์ พอตเตอร์
-จบ-
ผลงานอื่นๆ ของ คีอานู ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ คีอานู
ความคิดเห็น